หมวกแก๊ปเพนท์ เพิ่มรายได้

| 2553-09-08 | |
“หมวกแก๊ปเพนท์”
----@@@@----

“ต่อ-เอกราช คุ้มเสนียด” ปัจจุบันสร้างสรรค์ “หมวกแก๊ปเพนท์” จำหน่าย โดยเป็นการสร้างศิลปะลงบนหมวก จนเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ เจ้าของผลงานเล่าว่า เรียนมาด้านศิลปะ จบจากโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ แล้วก็ไปเรียนเพาะช่างต่อจนจบ ปวส. จากนั้นก็เรียนต่อด้านนิเทศศิลป์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พอจบก็ทำงานเป็นฝ่ายศิลป์ ทำงานออกแบบอยู่เบื้องหลังการทำหนัง แต่หลังจากที่ทำงานอยู่ตรงนั้นได้สักระยะหนึ่งก็เริ่มรู้สึกเบื่อ จึงเริ่มที่จะมองหาช่องทางอาชีพใหม่ ๆ

“จนมีเพื่อนมาชวนไปขายเสื้อเพนท์ จึงตัดสินใจไปลงทุนขายเสื้อเพนท์กับเพื่อน ขายเสื้ออยู่กับเพื่อนได้ระยะหนึ่งก็เริ่มขยายร้านเปิดเพิ่มอีกหนึ่งร้าน แตกไลน์ขายเสื้อสกรีนลายแนวญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากเปิดร้านใหม่ก็เริ่มมองหาสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาขายเพิ่ม ซึ่งก็มองว่าหมวกแก๊ปที่มีขายอยู่ในท้องตลาดนั้นมีแต่หมวกที่ใช้เย็บปักลาย เป็นส่วนใหญ่ ยังไม่มีใครใช้วิธีการเพนท์เลย จึงได้ความคิดเพนท์ลายลงบนหมวกแก๊ปขายเป็นสินค้าใหม่”

เจ้าของผลงานบอกต่อไปว่า ที่เลือกการเพนท์หมวกแก๊ปขาย ก็เพราะว่ามีความรู้ทางด้านศิลปะอยู่แล้ว และเป็นงานที่ชอบ อีกอย่างหนึ่งงานเพนท์นั้นเป็นงานที่ทำได้อิสระ อยากใส่อะไรลงไปบนงานก็ได้ตามต้องการ และที่เลือกเพนท์หมวกแก๊ปก็เพราะว่าหมวกนั้นไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของไซซ์ เราเพ้นท์ได้จบในใบเดียวแล้วรอขายลูกค้าได้ทั่วไป ไม่เหมือนรองเท้าที่ต้องมีหลายไซซ์หลาย เบอร์ ซึ่งทำให้ต้องลงทุนสูง

“งานเพนท์หมวกเป็นงานแฮนด์เมด สร้างสรรค์ขึ้นมาทีละใบ ก็ทำให้ลูกค้าที่ซื้อไปมั่นใจได้เลยว่าเป็นหมวกที่มีอยู่แบบเดียวใบเดียวในโลก ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน” นี่ก็เป็นจุดขายสำคัญ

วัสดุอุปกรณ์ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี หมวกแก๊ป, สียาง (เป็นสีที่ใช้ในงานสกรีน), น้ำยาผสมสีสกรีน, หลอดใส่สี, ดินสอเขียนผ้า, ลูกบอลพลาสติกประมาณเบอร์ 4 เป็นต้น

หมวกแก๊ปที่ใช้จะใช้แบบเป็นผ้าทั้งใบหรือแบบด้านหลังเป็นตาข่ายก็ได้ แต่ต้องให้มีพื้นที่ข้างหน้าหมวกไว้สำหรับเพนท์ลวดลาย สีก็ใช้แม่สี คือน้ำเงิน เหลือง แดง และสีขาว สีดำ แต่ถ้าต้องการสีพิเศษก็ซื้อเพิ่ม ส่วนน้ำยาผสมสีสกรีน ถ้าจะไม่ซื้อก็ใช้น้ำแทนก็ได้ อย่างไรก็ตาม หลอดใส่สีควรจะมี เพราะช่วยทำให้งานวาดลวดลายง่าย ได้เส้นที่เนียนกว่าใช้พู่กัน เวลาเก็บก็ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าไม่มีก็ใช้พู่กันวาดก็ได้

“ส่วนการผสมสีนั้นต้องผสมให้พอดี ไม่เหนียวหรือเหลวเกินไป” เอกราชกล่าว

ขั้นตอนการทำ...เลือก ลายที่ต้องการจะวาด จากนั้นก็ออกแบบดีไซน์จัดวางลงบนกระดาษเพื่อเป็นแบบก่อน เมื่อวาดลงบนกระดาษเรียบร้อยแล้ว ก็นำหมวกมาใส่ลงบนลูกบอลพลาสติก เพื่อที่จะลงสีได้ง่ายขึ้น

จากนั้นก็ทำการลงสี โดยใช้หลอดบรรจุสีทำการบรรจุสีที่ผสมไว้แล้ว ทำการวาดโครงเส้นตามรูปแบบที่ออกแบบไว้ ถ้าไม่มีหลอดสีก็ใช้พู่กันแทนได้ ทั้งนี้ สำหรับมือใหม่ก็ควรจะใช้ดินสอเขียนผ้าวาดโครงเส้นไว้ก่อน แล้วจึงใช้สีลงทับ พอลงสีตามโครงเส้นเรียบร้อย ก็ตั้งทิ้งไว้รอให้สีแห้ง

พอสีแห้งแล้วก็ทำการลงสีในรูปตามต้องการ ลงสีในขั้นตอนนี้เรียบร้อยแล้วก็ตั้งรอให้สีแห้งก่อนอีกครั้ง จากนั้นจึงทำการเก็บรายละเอียดบนรูปอีกครั้ง แล้วก็ลงแสงเงาให้ภาพดูมีมิติ ดูสวยงามมากขึ้น

การลงสีแต่ละขั้นตอนต้องรอให้สีที่ลงไปก่อนหน้าแห้งเสียก่อน ถ้าสีไม่แห้งแล้วลงสีทับไป สีจะปนกันจนไม่สวย อีกอย่างเวลาสีแห้งก็จะได้ดูว่าสีที่ลงไว้อ่อนไปเพราะเนื้อผ้าดูดสีหรือไม่ ถ้าอ่อนไปก็ลงเพิ่มให้สีเข้มขึ้น

“หมวกแก๊ปเพนท์” ของร้านนี้ ลวดลายออกเป็นแนวญี่ปุ่น เป็นรูปจำพวก มังกร หงส์ ปลาคาร์ป ดอกซากุระ โดยเน้นออกแบบดีไซน์จัดวางรูปภาพที่มีความหลากหลาย โดยมีราคาขายอยู่ที่ใบละ 380 บาท แต่ถ้าซื้อตั้งแต่ 1 โหลขึ้นไปก็จะได้เป็นราคาส่งที่ถูกลงอีก นอกจากนี้ ยังทำเสื้อสกรีนขายควบคู่ได้อีกด้วย

“งานเพนท์หมวกแก๊ปเป็นงานที่ลงทุนไม่สูง ลงทุนประมาณ ไม่เกิน 3,000 บาท และสามารถฝึกหัดทำได้สำหรับมือใหม่ แต่ก็ต้องพอมีพื้นฐานด้านศิลปะอยู่บ้าง ที่สำคัญสามารถนำไปดัดแปลง ไปเพนท์ลงบนหมวกผ้าทรง อื่น ๆ ได้ด้วย หรือจะเพนท์บนสินค้าต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า ก็ได้” เอกราชกล่าว
----@@@@----

ต่อ-เอกราช สร้างสรรค์หมวกแก๊ปเพนท์ลายเท่ ๆ ขายอยู่ที่ร้าน carapace ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการที่ 14 ซอย 6 ห้อง 075 และยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการรับออร์เดอร์สั่งทำ โดยการติดต่อผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ 08-7979-1072 รวมถึงมีเว็บไซต์ twohand.ibuy.co.th ให้ดูตัวอย่างผลงาน ทั้งนี้ การเพนท์ลวดลายต่าง ๆ ลงบนวัสดุที่เป็นสินค้าอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา.

ที่มาของบทความ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


มุมมองของชีวิต